ลักษณะตัวอ้วนกลมสีฟ้า (เมื่อแรกเกิดมามีสีเหลือง) ไม่มีใบหู เนื่องจากถูกหนูแทะ มีหน้าที่เป็นหุ่นยนต์พี่เลี้ยงซึ่งคนที่ซื้อโดราเอมอนมาคือเซวาชิเหลนชายของโนบิตะ
วันหนึ่งเซวาชิเกิดอยากรู้สาเหตุที่ฐานะทางบ้านยากจน จึงได้กลับไปในอดีตด้วยไทม์แมชชีน จึงได้รู้ว่าโนบิตะ (ผู้เป็นปู่ทวด) เป็นตัวต้นเหตุ เซวาชิจึงได้ตัดสินใจให้โดราเอมอนย้อนเวลา
ไปคอยช่วยเหลือดูแลเวลาโนบิตะโดนแกล้งโดยใช้ของวิเศษที่หยิบจากกระเป๋าสี่มิติ
ต้นกำเนิิดโดเรมอน

โดราเอมอนถูกผลิตขึ้นในโรงงานสร้างหุ่นยนต์ที่เมืองโตเกียว เมื่อวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 2112 (พ.ศ. 2655) แต่ในระหว่างการผลิตเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ทำให้โดราเอมอน
มีคุณสมบัติไม่เหมือนหุ่นยนต์แมวตัวอื่น ต้องเข้ารับการอบรมในห้องเรียนคลาสพิเศษของโรงเรียนหุ่นยนต์ (และได้พบกับเพื่อนๆ แก๊ง ขบวนการโดราเอมอน ที่นั่น)
จนกระทั่งวันหนึ่ง ในงาน "โรบ็อต ออดิชัน" ซึ่งเป็นงานที่จัดให้มีการแสดงความสามารถของหุ่นยนต์ที่ได้ผ่านการอบรมแล้ว ด้วยความซุกซนของเซวาชิในวัยเด็ก
เขาจึงได้กดปุ่มเลือกซื้อโดราเอมอนมาไว้ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ โดราเอมอนจึงได้มาอยู่อาศัยที่บ้านของเซวาชิ ในฐานะของหุ่นยนต์เลี้ยงเด็ก (จากตอนพิเศษ "กำเนิดโดราเอมอน ปี 2112")
แต่ในต้นฉบับดั้งเดิมนั้นจะแตกต่างกัน คือ โดราเอมอนได้ถูกนำไปขายทอดตลาด เพราะเป็นสินค้าไม่ได้คุณภาพ จากนั้นพ่อแม่ของเซวาชิจึงมาซื้อโดราเอมอนไปไว้ที่บ้าน
แต่เดิมนั้นตัวโดราเอมอนมีสีเหลือง และมีหู แต่แล้วในวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 2122 ขณะที่โดราเอมอนหลับอยู่นั้น ใบหูก็โดนหนูแทะจนแหว่งไปทั้ง 2 ข้าง
และไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ หลังจากรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล หุ่นยนต์แมว "โนราเมียโกะ" แฟนสาวของโดราเอมอนก็มาเยี่ยม แต่พอทราบว่าโดราเอมอนไม่มีหู
เหลือแต่หัวกลม ๆ โนราเมียโกะถึงกับหัวเราะเป็นการใหญ่ ทำให้โดราเอมอนเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็พยายามทำใจด้วยการดื่มยาเสริมกำลังใจ แต่ว่าโดราเอมอนหยิบผิดกินยาโศกเศร้าแทน
ทำให้โศกเศร้ากว่าเดิม และเริ่มร้องไห้ไม่หยุด จนสีลอกเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอย่าที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบัน หลังจากนั้นโดราเอมอนจึงเกลียด และกลัวหนูเป็นอย่างมาก และไม่ค่อยมีความมั่นใจ
ในตัวเองเกี่ยวกับเรื่องความรัก
นอกจากนั้น โดราเอมอนยังมีน้องสาวชื่อโดรามี ที่จริงก็แค่ใช้เศษเหล็กแบบเดียวกันในการผลิต แต่โดเรมีใช้น้ำมันรุ่นใหม่ ขณะที่ผลิตโดราเอมอนอยู่ได้ทำชิปหล่นหายไป 1 ส่วน
จึงทำให้หยิบของวิเศษผิดพลาดบ่อยๆ
ข้อมูลจำเพาะของโดราเอมอน

เป็นความตั้งใจของผู้วาดการ์ตูนที่ใช้ตัวเลข 3-9-12 กับตัวละครนี้ โดราเอมอนจึงมีอะไรหลายอย่างกี่ยวกับตัวเลขชุดนี้
มีน้ำหนัก 129.3 กิโลกรัม
ความสูง 129.3 เซนติเมตร (แต่เวลานั่ง จะเหลือ 100 เซนติเมตร)
กระโดดได้สูง 129.3 เซนติเมตร (เวลาเจอหนู)
มีพละกำลัง 129.3 แรงม้า
วัดรอบหัว รอบอก รอบเอวได้ 129.3 เซนติเมตร
วิ่งปกติในระยะ 50 เมตรใช้เวลา 15 วินาที แต่ถ้าเจอหนูจะวิ่งได้เร็วถึง 129.3 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
วันที่ผลิตคือ ปีที่ 12 เดือน 9 วันที่ 3 (เรียงแบบปฎิทินญี่ปุ่น)
ส่วนประกอบในร่างกาย

เนื่องจากเป็นหุ่นยนต์แมวที่ผลิตขึ้นในอนาคตคือคริสต์ศตวรรษที่ 22ตามจินตนการของผู้แต่งและวาดการ์ตูน โดราเอมอนจึงผลิตด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมีความคุณสมบัติดังต่อไปนี้
ตา = ตาแสงอินฟราเรด สามารถมองเห็นได้แม้แต่ในที่มืด
จมูก = มีลักษณะเป็นลูกกลมๆ สีแดง เหมือนกับปลายหาง มีความไวในการรับรู้กลิ่นได้ไวกว่ามนุษย์ 20 เท่า แต่ปัจจุบันชำรุด จึงสามารถดมกลิ่นได้เท่าจมูกคนเท่านั้น
หนวด = มี 6 เส้น เป็นหนวดเรดาร์ สามารถจับวัตถุระยะไกลได้ แต่อยู่ระหว่างรอซ่อมแซม
ร่างกาย = ผิวหนังเป็นโลหะผสมพิเศษต้านแรงดึงดูด ทำให้ฝุ่นละอองไม่สามารถจับเกาะได้ นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูง แม้อยู่ในอวกาศหรือใต้ทะเลลึกก็ไม่เป็นปัญหา
(จากตอนพิเศษ "ตะลุยปราสาทใต้สมุทร") โดนของเหลวคล้ายกรดสาดใส่ก็ไม่ละลาย (จากตอนพิเศษ "ไซอิ๋ว") แต่ก็มีข้อเสียหลายอย่างเช่นกัน คือ แพ้อากาศร้อน
(จากตอนพิเศษ "ตะลุยปราสาทใต้สมุทร") และแพ้อากาศหนาว จนถึงขั้นเป็นหวัดได้ (จากตอน "นางฟ้านำทาง") หากโดนไฟฟ้าช็อตก็จะเสียหาย
(จากตอนพิเศษ "บุกอาณาจักรเมฆ" และ "ฝ่าแดนเขาวงกต")
มือ = รูปร่างกลมสีขาวไม่มีนิ้วมือ จึงไม่สามารถเล่นพันด้าย และเป่ายิ้งฉุบได้ แต่ก็สามารถดูดจับสิ่งของได้ทุกอย่าง จริงๆ แล้วโดราเอมอนถนัดทั้ง 2 มือ แต่ส่วนใหญ่มักจะใช้แต่มือขวา
ไม่ค่อยใช้มือซ้ายเท่าไหร่นัก
ปาก = ปากขนาดกว้าง สามารถรับประทานได้ทุกอย่าง โดยจะเปลี่ยนเป็นพลังงานปรมาณู ภายในปากจะมีฟันที่เรียกว่า "ฟู้ดคัตเตอร์" ซึ่งจะปรากฏให้เห็นเฉพาะเวลาที่โดราเอมอน
โกรธจนต้องยิงฟันเท่านั้น แต่ในตอนพิเศษ "ไดโนเสาร์ของโนบิตะ 2006" โดราเอมอนกลับถูกวาดให้มองเห็นซี่ฟันอย่างชัดเจน
กระพรวน = ไว้ห้อยคอ มีสีเหลือง ส่วนสายคาดมีสีแดง เมื่อสั่นกระพรวนจะสามารถเรียกแมวที่อยู่ใกล้เคียงมาชุมนุมกันได้ โดยจะปล่อยคลื่นเสียงพิเศษ แต่น่าเสียดายตอนนี้ใช้งานไม่ได้
กระเป๋าหน้าท้อง = กระเป๋าสี่มิติ ไว้สำหรับเก็บของวิเศษ พื้นที่เก็บของไม่มีจำกัด สามารถถอดไปทำความสะอาดได้ โดยระหว่างนั้นจะนำกระเป๋าสี่มิติใบสำรอง หรือที่มักเรียกว่า
"กระเป๋าสำรอง" มาใช้แทน ซึ่งกระเป๋าทั้งสอง จะมีมิติที่เชื่อมต่อกันของที่เอาใส่ในกระเป๋าใบหนึ่ง จะสามารถนำออกมาจากกระเป๋าอีกใบหนึ่งได้
เท้า = ลักษณะแบนเรียบ สีขาว มีพลังต้านแรงดึงดูด ส่งผลให้เท้าอยู่ลอยจากพื้น 3 มิลลิเมตร เลยไม่จำเป็นต้องใส่รองเท้าเพราะไม่มีฝุ่นผงติดเท้า เดิมทีเท้าของโดราเอมอน
จะเป็นแบบที่สามารถเดินได้โดยไม่มีเสียงเหมือนกับแมวย่อง แต่ปัจจุบันชำรุดไปแล้ว ทำให้เวลาเดินจึงมีเสียงจากแรงเสียดสีกับอากาศ
สำหรับเวลาขี่จักรยานต้องใช้ปากจับแฮนด์ และใช้มือถีบที่ปั่นจักรยานแทน เนื่องจากขาหยั่งไม่ถึง (จากตอน "จิโซ เทพเด็กทิ่มสวรรค์")
หาง = เป็นสวิตช์ปิด-เปิด ถ้าถูกดึง ทุกอย่างจะหยุดทำงาน โดราเอมอนสามารถดึงหางเพื่อปิดสวิตช์ตัวเอง แต่ไม่สามารถดึงเพื่อเปิดเองได้
สิ่งที่ชอบ-เกลียด


สิ่งที่ชอบที่สุดคือขนมหวานญี่ปุ่นที่เรียกว่า โดรายากิ (แป้งทอด) โดยสามารถกินโดรายากิขนาดใหญ่ที่สุดในโลก (ขนาดใหญ่เท่าห้องของโนบิตะ) ได้คนเดียวหมด
และเคยชนะเลิศการแข่งขันกินโดรายากิเร็วมาแล้ว สาเหตุที่ชอบกินโดรายากินั้น เป็นเพราะสมัยอยู่ในศตวรรษที่ 22 โดราเอมอนเคยได้รับโดรายากิจากแมวสาว
"โนราเมียโกะ" มันจึงกลายเป็นของโปรดของเขามาตั้งแต่บัดนั้น เขาสามารถทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธีการเพื่อให้ได้โดรายากิมา หากได้ยินว่ามีร้านค้าร้านไหนที่ขายโดรายากิ
ลดราคาก็จะรีบบึ่งไปซื้อมาในทันที ซึ่งจากความชอบจนกลายเป็นของโปรดนี้เอง จึงทำให้โดราเอมอนให้ความสำคัญกับเรื่องรสชาติความหวานของโดรายากิเป็นอย่างมาก
เขามักจะมีเรื่องถกเถียงกับเจ้าของร้านขายขนมบ่อยครั้ง ในเวลาที่ทางร้านทำโดรายากิออกมาหวานเกินไป
นอกจากโดรายากิแล้ว อาหารอย่างอื่นที่โดราเอมอนชอบก็คือ ขนมโมจิ ซึ่งเคยได้กินในตอนแรกสุด ที่เพิ่งเดินทางมาหาโนบิตะด้วยไทม์แมชชีน โดยเมื่อโดราเอมอนได้กิน
ก็บอกว่า อร่อยมาก ขนาดกินจนหมดแล้วยังถึงกับเลียจานเลยทีเดียว


ส่วนสิ่งที่โดราเอมอนเกลียดและกลัวที่สุดคือ หนูเพราะเคยโดนหนูกัดหูจนหูแหว่งไปทั้ง 2 ข้างตอนหลับ นอกจากนั้นยังกลัว แฮมสเตอร์ ด้วย (จากตอนพิเศษ "กำเนิดประเทศญี่ปุ่น")
เพราะโดราเอมอนถือว่าเป็นสัตว์ในตระกูลเดียวกับหนู
######################################################################################
ประวัติของโดราเอม่อน ตั้งแต่จุดกำเนิด
(และลักษณะพิเศษที่เพื่อนๆ หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ
เราจะได้ทราบกันจริงๆ ก็ตอนนี้แหล่ะค่ะ ไปดูกันเล้ย...)
Doraemon : โดราเอม่อน

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 เป็นวันที่เริ่มต้นพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง "Doraemon" ในประเทศญี่ปุ่น โดยจินตนาการของนักเขียนชาวญี่ปุ่นสองคน ที่ใช้นามปากการ่วมกันว่า
ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ โดยตัวการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 ซึ่งจินตนาการให้เป็นแมวตัวกลมๆ มีความสามารถพิเศษ และกระเป๋าวิเศษที่บรรจุของมากมาย
จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชาย ที่ขี้แย ไม่เอาไหน คนนึง และสอดแทรกคติธรรมเข้าไป ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก
ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า...โดราเนโกะ แปลว่า แมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อน โดราเอมอน เกิดขึ้นโดยความบังเอิญในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูน
ชื่อฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะขณะที่กำลังจินตนาการ สร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความลำบาก และกดดัน เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ
บังเอิญเหลือบเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้นึกต่อไปถึงตุ๊กตา แมว ล้มลุก และกลายเป็นโดราเอมอนในที่สุด
การ์ตูนเรื่องโดราเอม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสอง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
พร้อมทั้งสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูน แบ่งลักษณะนิสัยของคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ได้อย่างลงตัว เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย
ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม อ่านได้ทุกเพศทุกวัย จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มใน ญี่ปุ่น และแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษา
รวมทั้งภาษาไทยอีกด้วย นอกจากการ์ตูนแล้ว โดราเอม่อน ถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วมากมายหลายตอน โดยฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524
และฉายที่ประเทศไทยเราครั้งแรก วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525
ส่วนประกอบต่างๆ ของ โดราเอม่อน

ของวิเศษที่โดราเอม่อนใช้บ่อยๆ
คอปเตอร์ไม้ไผ่ :
คอปเตอร์ไม้ไผ่ ทำจากไม้ไผ่ ชื่อภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "Take (ไม้ไผ่) Koputa (คอปเตอร์)" เมื่อจะใช้ก็นำไปวางไว้บนหัวจะทำให้สามารถบินได้ เป็นเครื่องมือที่โนบิตะและโดราเอม่อน
ใช้เกือบทุกตอนเพราะใช้งานง่ายและไม่ค่อยมีอันตราย สามารถบินได้ในระยะทาง 600 กม. และความเร็วประมาณ 80 กม.ต่อ ชม. เช่นสามารถใช้บินจากโตเกียวถึงโอซาก้าในเวลาประมาณครึ่ง ชม.
ประตูสารพัดสถานที่ :

หากเปิดประตูนี้ออกแล้วพูดชื่อว่าจะไปที่ไหนประตูก็จะเปิดออกไปยังสถานที่นั่นทันที ประตูเป็นประตูไม้ในแบบโบราณ เป็นเครื่องมือที่สะดวกสบายที่สุด ของวิเศษชิ้นนี้ถูกใช้บ่อยๆ
ทำให้เราได้เห็นสถานที่ต่างๆ ในการ์ตูนได้มากมายหลายที่ ตามจินตนาการ
ไฟฉายย่อส่วน :
รูปร่าง และวิธีใช้คล้าย ๆ กับไฟฉายทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับย่อสิ่งของหรือขยายสิ่งของให้ใหญ่หรือเล็กก็ได้ มีประโยชน์มาก และโดราเอม่อนก็นำมาใช้บ่อยๆ อีกด้วย
ไทม์แมชชีน :

เครื่องไทม์แม็คชีนเป็นพาหนะที่สามารถใช้เดินทางย้อนเวลาไปอดีต หรือ เดินทางข้ามเวลาไปสู่อนาคตได้ โดยทางเข้าและทางออกจะอยู่ในลิ้นชักโต๊ะในห้องนอนของโนบิตะ
โดราเอม่อนและเพื่อนๆ สามารถใช้เดินทางไปอนาคตได้ แต่ว่าเครื่องนี้ก็ไปส่งผิดที่ผิดเวลาบ่อยๆ
โดราเอม่อนในประเทศต่างๆ
(โดราเอม่อน ในรูปแบบของชนชาติต่างๆ บางคนว่าเป็นเพื่อนของโดราเอม่อนในประเทศนั้นๆ เรามาดูว่ามีประเทศไหนบ้าง)
โดราเหม็ดทรี : Doramed III

ประเทศที่เกิด : อาหรับ
อาชีพ : นักเวทย์มนต์
จุดอ่อน : ว่ายน้ำไม่เป็น
จุดแข็ง: มีเวทย์มนต์
ลักษณะส่วนตัว
เป็นแมวที่รวยคนหนึ่งในอาหรับ เขารู้วิธีการใช้เวทย์มนต์ เมื่อเขาโกรธ เขาจะกลายเป็นยักษ์ เขากลัวน้ำมากที่สุด (มันก็คล้ายๆ กับโดราเอม่อนที่กลัวหนูนั่นแหละ)
โดรานิคอฟ : Doranikov

ประเทศที่เกิด : รัสเซีย
อาชีพ : นักแสดง
จุดอ่อน : กลัวความหนาว
จุดแข็ง: สามารถกลายเป็นหมาป่าเมื่อเห็นวัตถุทรงกลม
ลักษณะส่วนตัว
เป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียง โดเรนิคอฟ เป็นแมวที่ช้ามากๆ ชอบความเป็นส่วนตัว ไม่ค่อยพูดมาก เขามักจะเขียนสิ่งที่เขาต้องการพูดลงในเศษกระดาษเท่านั้น
โดรานินโญ่ : Doraninho

ประเทศที่เกิด : บราซิล
อาชีพ : นักฟุตบอลมืออาชีพ
จุดอ่อน : ด้านความจำ
จุดแข็ง: วิ่งเร็ว
ลักษณะส่วนตัว
เขาเป็นแมวที่เล่นฟุตบอลเก่งระดับมืออาชีพ และจะเล่นฟุตบอลเกือบทุกวัน เขามีความหวังทางด้านความจำของเขา เขามักจะลืม สิ่งต่างๆ แล้วชอบหัวเราะในสิ่งที่คนอื่นๆ
ไม่หัวเราะกัน เขาวิ่งได้เร็วมาก สมกับที่เป็นนักฟุตบอลมืออาชีพ
โดราเดอะคิด : Dora The Kid

ประเทศที่เกิด : นิวยอร์ค อเมริกา
อาชีพ : เป็นผู้ช่วยของบริษัท
จุดอ่อน : กลัวความสูง
จุดแข็ง: แม่นปืน
ลักษณะส่วนตัว
โดราเดอะคิดมีประโยชน์ และเป็นแมวที่กล้าหาญมาก เขาช่วยให้อเมริกาพ้นจากความหายนะเป็นอย่างมาก เขาก็ทำงานในบริษัทในยุคศตวรรษที่ 21
หวังโดรา : Wang Dora

ประเทศที่เกิด : จีน
อาชีพ : เลขานุการของโรงพยาบาล
จุดอ่อน : ผู้หญิง
จุดแข็ง: การเรียน กังฟู เป็นหมอที่ดี
ลักษณะส่วนตัว
เขาเป็นแมวที่ฉลาด เป็นหมอที่ดีชอบช่วยเหลือผู้อื่น ความสามารถเฉพาะตัวเขาคือกังฟู แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นผู้หญิงเขามักจะเซ่อซ่า ทำอะไรไม่ถูก
เอล-มาทาโดรา : El matadora

ประเทศที่เกิด : สเปน
อาชีพ : ทำงานในร้านอาหารฟาสท์ฟูด
จุดอ่อน : นอนมากเกินกว่าปกติ เมื่อเขาเหนื่อย
จุดแข็ง: แข็งแรง มีกำลังมาก
ลักษณะส่วนตัว
เขาเป็นแมวที่หล่อ เขาทำงานในร้านอาหารฟาสฟูด เพราะเขามีพลกำลังมากจึงทำจานแตกบ่อยๆ และเขาก็โดนเจ้าของร้านดุบ่อยๆ เช่นกัน เป็นนักสู้วัวกระทิง
ชอบพิซซ่า และ อาหารสเปนเป็นที่สุด
######################################################################################
ตัวละครสำคัญในการ์ตูน โดราเอม่อน
โนบีตะ
เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่แสนจะขี้เกียจ เรียนไม่เก่ง มักจะสอบได้ 0 คะแนนอยู่เสมอ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ชอบนอนกลางวันและชอบอ่านการ์ตูน เป็นเด็กตัวเล็ก
อ่อนแอ และมักจะถูกเพื่อนแกล้งอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะไจแอนท์ สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ยากที่จะไปจีบชิซุกะ แต่ในที่สุดแล้วโนบิตะก็ได้แต่งงานกับชิซุกะอยู่ดี
มีข้อดีอยู่เหมือนกันก็คือ ยิงปืนเก่ง
ชิซูกะ
เด็กผู้หญิงนิสัยดี เป็นนางเอกของเรื่อง เรียนเก่ง มักจะทำคะแนนสอบได้ดีเสมอ เป็นเพื่อนกับโนบิตะ ชอบอาบน้ำ และชอบไปเล่นกับโนบิตะและโดเรมอนเสมอ
เมื่อโตขึ้นจะได้แต่งงานกับโนบิตะ
ซูเนโอะ
โฮเนะคาวะ ซูเนโอะ เด็กผู้ชายปากแหลมบ้านรวย เป็นเด็กที่ชอบโกหกและขี้โกง แต่ก็ฉลาด เป็นลูกน้องไจแอนท์ คอยแกล้งโนบิตะอยู่เสมอ ชอบเอาของเล่นใหม่ๆไปอวดเพื่อนที่โรงเรียน
แต่แล้วก็โดน ไจแอนท์แย่งไปเล่นทุกที ถึงแม้ว่าซูเนโอะจะเป็นเด็กขี้โม้และหัวสูง แต่ก็มีนิสัยดีอยู่บ้าง
ไจแอนท์
เด็กผู้ชายตัวอ้วน และแข็งแรง ชอบแกล้งโนบิตะแต่เมื่อถึงเวลาคับขันก็จะช่วยคนอื่น ชื่อจริงชื่อทาเคชิ มีน้องสาวหนึ่งคนรักน้องสาวมาก กลัวแม่เป็นที่หนึ่ง
มักจะทำคะแนนสอบไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่เท่าโนบิตะ ไจแอนท์ไม่ค่อยชอบซูเนโอะและโนบิตะ ที่มักจะมีของเล่นแปลกๆอยู่เสมอ ชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ เขามักจะ
บังคับให้เพื่อนๆไปดูคอนเสิร์ตของเขาเสมอ แต่ร้องไม่เอาไหน จนคนที่ฟังอยู่ต้องคอยอุดหูไว้ตลอด มีความฝันว่า โตขึ้นจะต้องเป็นนักร้องเหมือนพี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตยให้ได้
โดเรมี
เป็นน้องสาวที่น่ารักของโดราเอมอน โดเรมีสามารถทำทุกอย่างที่โดเรมอนทำได้ เธอมีกระเป๋าวิเศษ โดเรมีเป็นแมวหุ่นยนต์ที่สุภาพ และ ไม่ขี้บ่นเหมือนโดราเอมอน
โดเรมีไม่ได้อาศัยอยู่กับโนบิตะ และ โดราเอมอน แต่เธอมักจะมาช่วยในหลายๆ เหตุการณ์ หรือ ปัญหา ที่โดราเอมอนไม่สามารถแก้ไขได้
เดคิซูกิ
ถือเป็นเด็กที่เก่งไปหมดทุกอย่าง สอบได้คะแนนดีมาก เล่นกีฬาเก่ง และ จะเป็นที่ชื่นชอบของเพื่อนๆ
เดคิซูกิเป็นเด็กที่มีนิสัยใจดีมาก ถ่อมตน และ ไม่พูดจาโอ้อวด
โนบิตะมักจะพยายามหาวิธีให้เดคิซูกิทำการบ้านให้
######################################################################################
กำเนิด โดราเอมอน และ 10 การผจญภัยที่น่าจดจำ

กำเนิดโดราเอมอน

โดราเอมอนถือกำเนิดขึ้นในปี 2112 และถูก เชวาชิ เหลนของเหลนของโนบิตะ ขอร้องให้เดินทางไปแก้ไขชีวิตอันแสนจะย่ำแย่ของบรรพบุรุษ
10 การผจญภัยของโดราเอมอนที่น่าจดจำ

หลังจากตอนแรกที่การผจญภัยของโดราเอมอนเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ตลอดระยะเวลา 25 ปี ได้มีตอนใหม่ ๆ ออกมาตลอดทุกปี จึงถือเป็นธรรมเนียมของญี่ปุ่นเขา
ที่หนึ่งปีต้องสร้างโดราเอมอนออกฉาย 1 ตอน ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ก็ได้ผ่านมาถึงตอนที่ 24 แล้ว....ฉบับนี้เราคัด 10 ตอนที่โดดเด่นที่สุดของโดราเอมอน ย้อนรำลึกให้ได้หายคิดถึง....
ไดโนเสาร์ของโนบิตะ

เนื้อเรื่อง: โนบิตะได้ไปขุดหาไข่ไดโนเสาร์เพื่อให้เพื่อน ๆ ของเขายอมรับ ว่าบนโลกนี้ยังมีไดโนเสาร์อยู่ และแล้วโนบิตะก็ไปเจอก้อนหินก้อนหนึ่งซึ่งโนบิตะคิดว่ามันเป็นไข่
โดราเอมอนจึงช่วยทางอ้อมให้ฟักออกมาเป็นตัว ไดโนเสาร์พันธุ์คอยาว (นึกไม่ออกดูหน้าเนสซี่ครับ) ชื่อว่า พีซึเกะ แต่เพราะสภาวะปัจจุบันไม่เหมาะสม ทำให้ต้องจำใจพามันย้อนกลับไป
ยังยุคไดโนเสาร์ สุดท้ายโนบิตะ, โดราเอมอน และกลุ่มเพื่อนก็ต้องย้อนกลับไปช่วยพีซึเกะ เพื่อพาไปยังที่อยู่ที่แท้จริงของมัน นี่คือที่มาของการเดินทางในครั้งนี้...
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:โลกที่เต็มไปด้วยไดโนเสาร์สิ่งเหล่านี้คือความใฝ่ฝันของเด็ก ๆ แทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการเจอะเจอ ไทแรนโนซอรัส ด้วยตาตัวเอง เด็ก ๆ
ทุกคนจึงมักจินตนาการใฝ่ฝันว่าบนโลกนี้ยังมีไดโนเสาร์อยู่ และเหนือสิ่งอื่นใด นี่คือ การผจญภัยของโดราเอมอนตอนแรกเริ่มครับ!
โนบิตะนักบุกเบิกอวกาศ

เนื้อเรื่อง: มีอยู่วันหนึ่ง โนบิตะฝันว่าตัวเองอยู่ในที่อีกที่หนึ่ง เป็นยานอวกาศที่มีสัตว์เลี้ยงลักษณะเหมือนแมว แล้วมีเด็กผู้ชายอีกหนึ่งคนอยู่ด้วย แต่ยังไงโดราเอมอนก็ไม่เชื่อ
จู่ ๆ คืนหนึ่งแมวตัวนั้นก็โผล่ออกมาจากใต้ที่นอนของโนบิตะ... โนบิตะกับโดราเอมอนได้รู้จักกับเด็กผู้ชายที่ชื่อ โรพอล จากดาวโคยะ ดวงดาวที่มีสัตว์รูปร่างประหลาด ๆ
และธรรมชาติที่สวยงามแต่ก็มีพวกกลุ่มคนร้ายคิดยึดครองดวงดาว ทำให้โนบิตะต้องร่วมแรงใจกับเพื่อน ๆ เพื่อปกป้องดวงดาวแห่งนี้....
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:นี่คือตอนต่อหลังจากความสำเร็จของตอนแรกเป็นการเล่าเรื่องของโลกอีกฟากที่ยากต่อการจินตนาการ ใครจะรู้ว่าดวงดาวอีกฟากมีสัตว์รูปร่างแปลกตา
กว่าโลกของเราขนาดไหน!? เหมือนได้ดูหนังไซไฟจินตนาการสูงส่ง การผจญภัยครั้งนี้คุณจะได้เห็นถึงความกล้าหาญชั้นสูงสุดของโนบิตะด้วยครับ
ตะลุยปราสาทใต้สมุทร

เนื้อเรื่อง:เข้าถึงวันหยุดฤดูร้อนกลุ่มโนบิตะกับเพื่อนต่างคนต่างต้องการไปคนละสถานที่โนบิตะกับซิซุกะอยากไปภูเขา แต่ไจแอนท์กับซูเนโอะอยากไปทะเล
สุดท้ายโดราเอมอนต้องแก้ปัญหาด้วยการพาไปปีนภูเขาใต้ท้องทะเล ทั้งสี่ตอบตกลง โดยไจแอนท์กับซูเนโอะมีเล่ห์นัยอยู่นิด ๆ และทั้ง 5 ก็ออกเดินทางไปใต้มหาสมุทรแปซิฟิก
พร้อมกับรถเดินทางที่มีชื่อว่า บัคกี้ และได้พบกับการผจญภัยครั้งใหม่ ที่มีทั้งปลาหมึกยักษ์, มนุษย์ใต้สมุทร และปริศนาสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า....
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:ลองนึกสิครับว่า ถ้าคุณสามารถเดินทางใต้ทะเลได้คุณจะไปมั้ย!? มีทั้งปลาทะเลหายาก ปะการังสีสวยงาม โดยเราหายใจในทะเลได้สบาย ๆ
เป็นใครก็อยากไปเชื่อเหอะ! และนี่ก็เป็นอีกตอนที่แสดงออกมาให้เห็นถึงจิตนาการของฟุจิโกะ ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างสนุกสนานแฝงสาระ
สงครามอวกาศ

เนื้อเรื่อง:มีอยู่คืนหนึ่ง โดราเอมอนกับโนบิตะได้พบกับ พาพิ ประธานาธิบดีของดาวพิริก้า ที่ดวงดาวแห่งนั้นเกิดการกบฏขึ้นทำให้ต้องหนีมาโลก แต่กลุ่มกบฏก็ยังตามมา
แล้วจับตัวซิซุกะไปเป็นตัวประกัน ทำให้พาพิต้องใช้ตัวเองแลกกับตัวซิซุกะ พวกกลุ่มเด็กทั้ง 5 จึงต้องออกเดินทางไปดวงดาวพิริก้า
เพื่อช่วยพาพิและปกป้องดวงดาวพิริก้าให้รอดปลอดภัย...
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:ในช่วงที่มีเหตุวุ่นวายเกี่ยวกับสงครามออกมาให้ได้ยินได้ฟังตลอดเวลาส่งผลให้การ์ตูนตอนนี้สอนให้เด็ก ๆ รู้ว่า การทำสงครามแย่งชิงกัน
เพื่อความยิ่งใหญ่ของตัวเองหาใช่วิธีการที่ถูกต้อง สันติวิธีกับความสามัคคีต่างหากที่ทำให้โลกใบนี้สงบสุข
กำเนิดประเทศญี่ปุ่น

เนื้อเรื่อง:โนบิตะรู้สึกว่าชีวิตส่วนตัวถูกบังคับมากเหลือเกิน จึงต้องการที่จะไปใช้ชีวิตอยู่คนเดียว บวกกับเพื่อน ๆ ทั้งหลายก็ทะเลาะกับที่บ้าน รวมทั้งโดราเอมอนด้วย
(เพราะที่บ้านต้องการเลี้ยงหนูแฮมสเตอร์) ทำให้ทั้ง 5 ได้เดินทางไปยังโลกในสมัยอดีตเมื่อเจ็ดหมื่นปีก่อน เพื่อสร้างประเทศของพวกเขา การมาครั้งนี้ทำให้พวกเขาได้พบกับ
คุคุรุ เด็กน้อยจากเผ่าแสงสว่าง (แต่ถูกห้วงมิติดูดมาอยู่ในโลกปัจจุบัน) เพื่อช่วยคุคุรุกำจัดเผ่าความมืดซึ่งได้ออกมาทำลายเผ่าต่าง ๆ หวังครองโลก ทำให้เด็กทั้ง 5
ต้องออกเดินทางอีกครั้ง โดยพยายามไม่ให้แผนของเจ้า กิกะ ราชาของเผ่าความมืด ดำเนินการได้สำเร็จ....
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:เป็นการเล่าเรื่องราวในโลกอดีต ซึ่งได้ถ่ายทอดให้เห็นการดำเนินชีวิตแบบคนโบราณ อีกทั้งความเชื่อในเรื่องไสยศาสตร์ และที่แน่ ๆ ครับ
สัตว์เลี้ยงทั้ง 3 ของโนบิตะ คือสามสัตว์สุดยอดของตำนาน!!!
บุกอาณาจักรเมฆ

เนื้อเรื่อง:โนบิตะต้องการไปอยู่บนโลกสวรรค์ จึงเดือดร้อนต่อโดราเอมอนอีกครั้ง จากความต้องการของโนบิตะ โดราเอมอนได้สร้างอาณาจักรบนท้องฟ้าขึ้นมา
โดยใช้ก้อนเมฆช่วยสร้าง และได้ชวนเพื่อนทั้ง 3 มาเล่นด้วย แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อพวกโนบิตะได้เข้าไปผิดก้อนเมฆ ทำให้ได้พบกับมนุษย์ที่อาศัยอยู่บนฟ้า
ทำให้เด็กทั้ง 5 ล่วงรู้ถึงแผนการของคนบนฟ้า ว่าจะทำให้น้ำท่วมโลก (แผนการโนอาห์) เด็กทั้ง 5 ต้องออกมาปกป้องบ้านเกิดของตัวเองให้รอดปลอดภัย...
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:การผจญภัยครั้งนี้เป็นการสอนให้รู้จักรักษาธรรมชาติของโลกเราเอาไว้ ถ้าไปทำลายมันมากเท่าไหร่ไม่แน่ว่าอนาคตของโลกเราอาจเกิด
เหตุการณ์น้ำท่วมโลกขึ้นมาจริง ๆ ก็เป็นได้!
สามอัศวินในจินตนาการ

เนื้อเรื่อง:โนบิตะต้องการให้โดราเอมอนสร้างโลกแห่งความฝันขึ้นมา จึงได้ใช้เครื่องมือชนิดหนึ่งที่เรียกว่า 'เครื่องมือช่วยฝัน' ซึ่งสามารถผจญภัยไปยังโลกต่าง ๆ ได้
โดยใช้เทปแห่งความฝันเป็นตัวเลือกความฝัน... โนบิตะเลือกสามอัศวินในจินตนาการเป็นความฝันของเขา เมื่อเข้าไปสู่โลกของนิทาน โนบิตะต้องออกผจญภัยอีกครั้ง
เพื่อให้ตัวเองได้เป็นสุดยอดอัศวิน (และพิชิตใจองค์หญิง)....
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:หลังจากอาจารย์ได้เน้นหนักประเด็นเรื่องไปที่หลักวิทยาศาสตร์หลายครั้ง และแล้วอาจารย์ก็กลับมาสู่จินตนการในแบบเด็ก ๆ อีกครั้ง...
การผจญภัยแบบอัศวิน เด็กคนไหนก็ต้องอยากเป็นทั้งนั้นแหละครับ การต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่น่ากลัว ทั้งยังต่อสู้กับพ่อมดแบบไม่คิดชีวิต โดยที่ตัวเราไม่บาดเจ็บเพราะมัน
คือโลกแห่งความฝัน!
ตะลุยเมืองตุ๊กตาไขลาน

เนื้อเรื่อง:โดราเอมอนได้รับคูปองแลกดาวเคราะห์น้อยมา แล้วโนบิตะก็แลกมาได้หนึ่งดวง ซึ่งพวกเด็ก ๆ ตกลงที่จะสร้างอาณาจักรตุ๊กตาไขลานโดยต่างฝ่ายต่างสร้าง
ในสิ่งที่ตนเองชอบอยู่มาวันหนึ่งมีโจรร้ายได้แอบเข้ามาในอาณาจักรหวังที่จะขโมยทอง จึงเกิดเป็นการผจญภัยครั้งใหม่ของพวกเด็กบนโลกที่มีแต่ตุ๊กตาเดินได้....
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:เป็นตอนที่เปี่ยมจินตนาการเกี่ยวกับเมืองที่มีตุ๊กตาเดินไปมา ในแบบที่เด็ก ๆ ชอบ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงที่ชอบเล่นตุ๊กตาเป็นชีวิตจิตใจ
และนี่เป็นตอนสุดท้ายที่อาจารย์ฟุจิโกะทำก่อนที่ท่านจะจากไป!
ตำนานสุริยกษัตริย์

เนื้อเรื่อง:หลังจากที่เด็กทั้ง 5 เล่นกันอยู่ แต่แล้วเครื่องเล่นกลับโดนไจแอนท์แย่งเอาไปใช้ จึงเกิดเรื่องชุลมุนขึ้นระหว่างเอาของคืน ส่งผลให้ช่องกาลเวลาชำรุดไปโผล่ที่แห่งหนึ่ง
ซึ่งเป็นโลกที่มีอารยะธรรมโบราณและทำให้ได้พบกับ เจ้าชายทีโอ (ที่มีหน้าตาเหมือนโนบิตะแทบจะถอดแบบกันเลย) เจ้าชายแห่งประเทศมายา เนื่องจากหน้าตาที่เหมือนกันมาก
ทำให้ทั้งสองต้องการลองใช้ชีวิตแลกเปลี่ยนกันดู โนบิตะไปเป็นเจ้าชาย ส่วนทีโอเป็นโนบิตะ ไม่นานหลังจากนั้น กุกุ เพื่อนของเจ้าชายทีโอ ก็ถูก แม่มดเลดีน่า จับตัวไป
เด็กทั้ง 5 กับเจ้าชายทีโอจึงต้องออกเดินทางไปช่วยเหลือกุกุ....
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:นี่คือการ์ตูนตอนแรกที่ออกฉายช่วงเริ่มต้นทศวรรษ 2000 จึงได้มีการพัฒนาลายเส้นของการ์ตูนออกมาให้มีสีสันมากกว่าตอนเดิม ๆ ที่เคยเข้าฉาย
และการผจญภัยครั้งนี้ ก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ความเป็นโดราเอมอนเอาไว้ครบถ้วนสมบูรณ์
อัศวินแดนวิหค

เนื้อเรื่อง:หลังจากโนบิตะได้ฟัง เดคิสุงิ เล่าว่าเรื่องราวของมนุษย์นกโนบิตะสนใจที่จะบินให้ได้ จึงคิดสร้างเครื่องบินขึ้นมา แต่แล้ววันหนึ่งก็ได้พบกับ กูซึเกะ นกที่มีรูปร่างเหมือนคน...
ไจแอนท์กับซูเนโอะได้แอบเกาะเครื่องร่อนของกูซึเกะไปด้วย ทำให้โดราเอมอน, โนบิตะ และซิซุกะต้องเดินทางไปยังอาณาจักรเบิร์ดเปีย เมืองของกูซึเกะ
และแล้วการผจญภัยของเด็กทั้ง 5 ก็เริ่มต้นขึ้น...
สิ่งที่ทำให้น่าจดจำ:ด้วยการผจญภัยที่คงเอกลักษณ์ความเป็นโดราเอมอน เหมาะกับทุก*** ทุกวัย โดยการผจญภัยครั้งนี้เน้นจินตนาการถึงมนุษย์ที่สามารถบินได้
(เชื่อว่าใคร ๆ ก็อยากไปมาบนท้องฟ้า) ทำให้ตอนนี้เป็นหนึ่งในตอนที่ดูสนุกมาก นับจากการจากไปของอาจารย์ฟุจิโกะ
ความลับที่ควรรู้เกี่ยวกับโดราเอมอน
1. เชื่อหรือไม่ว่า โดราเอมอนมีเลขที่เกี่ยวข้องคือ 129.3 ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ส่วนสูง และปีเกิด (3-9-2112) ที่ต้องมีตัวเลขเท่านี้ เพราะอาจารย์ฟุจิโกะได้นำส่วนสูง
โดยเฉลี่ยของเด็กญี่ปุ่นที่อยู่ในชั้น ป.4 มาคำนวณ เพื่อให้ได้ส่วนสูงเท่า ๆ กับโนบิตะที่อยู่ชั้น ป.4 นั่นเอง
2. คุณรู้ไหมว่า ตอนแรกนั้นโนบิตะของเราต้องแต่งงานกับใคร คำตอบครับ.... น้องสาวของไจแอนท์ ที่ชื่อว่า ไจโกะ นั่นเอง ต้องขอบคุณเชวาชิ เหลนของเหลน โนบิตะ
ที่ทำให้ได้แต่งงานกับซิซุกะ
3. ความหมายของชื่อโนบิตะ ที่พ่อและแม่ของโนบิตะตั้งให้ แปลว่า.... ความหวังที่จะให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และก้าวหน้าไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
4. โดเรมี่ เกิดหลังโดราเอมอน 2 ปี และได้ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 1973
5. การ์ตูนโดราเอมอน ตีพิมพ์รวมเล่มฉบับแรกเมื่อปี 1974
6. รู้รึเปล่าว่า... ทีมนักพากย์การ์ตูนโดราเอมอนที่ญี่ปุ่น เป็นชุดเดียวกันตลอดตั้งแต่เริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อปี 1979 และรู้รึเปล่าว่า... คนพากย์โนบิตะเป็นผู้หญิงครับ
7. ถ้าคุณลองกลับไปอ่านการ์ตูนเรื่อง ปาร์แมน จะเห็นว่าตัวเอกหญิงของการ์ตูนปาร์แมน ชื่อว่า โฮชิโนะ สุมิเระ เธอคือดาราดังในเรื่องโดราเอมอนด้วย
8. ได้มีการโหวตคะแนนตัวการ์ตูนยอดนิยมตลอดกาล 100 ตัว ของญี่ปุ่น ซึ่งจัดในปี 2002 โดยสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮึ และตัวละครของอาจารย์ฟุจิโกะได้ไปถึง 8 ตัว
แน่ล่ะว่าโดราเอมอนได้อันดับที่ 1 โดยอันดับที่ 2 คือ ซุนหงอคง จาก ดรากอนบอลล์ นั่นเอง
9. โดราเอมอนถือเป็นการ์ตูนที่ไม่มีตอนจบ (ซึ่งมีอยู่น้อยมากที่จะเกิดขึ้น) แม้ว่าทางอาจารย์ได้มีการเขียนตอน "ลาก่อนโดราเอมอน" ออกมาก็จริง แต่ทว่ากระแสของแฟน ๆ
การ์ตูนที่ไม่ต้องการให้จบ ทำให้อาจารย์ต้องนำกลับมาเขียนต่อ จนอาจารย์ได้จากโลกนี้ไปเสียก่อน
ประวัติ ผู้แต่ง


อ.ฟุจิโมโตะ ฮิโรชิ เกิดเมื่อ 1 ธันวาคม 1933 ที่เมืองทากาโอกะ จ.โทยามะ ชีวิตการเป็นนักเขียนการ์ตูนของท่าน เริ่มต้นเมื่อปี 1944 อาบิโกะ โมโตโอะ เด็กวัยรุ่นๆ เดียวกับท่าน
ย้ายมาอยู่ที่เมืองทากาโอกะทั้งคู่ได้รู้จักกันจากการเรียนชั้นเดียวกัน ตอนเรียนป.5 ในปี 1946 ทั้งคู่ได้เลือกเรียนในโรงเรียนช่าง เทคนิคด้วยกัน
ในปี 1947 ทั้งคู่ได้อ่านการ์ตูนเรื่อง "ชินทาการะจิมะ" (เกาะมหาสมบัติใหม่) ของ อ.โอซามุ เทะซึกะ นั่นเป็นการ์ตูนที่ทำให้ทั้งคู่เกิดแรงบันดาลใจอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน
ทั้งคู่เริ่มเขียนการ์ตูนออกมา และพิมพ์จำหน่ายในละแวกบ้านเกิด ทั้งคู่เริ่มเขียนการ์ตูนมาเรื่อย เริ่มสะสมชื่อเสียงมาทีละน้อย เมื่อเริ่มมีคนรู้จักทั้งคู่ก็ย้าย ออกจาก โทยามะ
มาอยู่ ในเมืองใหญ่อย่างเกียวโต
ปี 1963 ทั้งคู่ได้ร่วมกับนักเขียนไฟแรงอีกหลายคนในยุคนั้น ร่วมกันสร้าง "STUDIO ZERO" ซึ่งเป็นสตูดิโอที่ รับทำงาน ด้านอะนิเมขึ้นมา แต่ทั้งอ.ฟุจิโมโตะ กับ อ.อาบิโกะ
ก็ยังคงมีงานหนังสือการ์ตูนออกมาเรื่อยๆ ในหลายๆนามปากกา อาทิ อาชิสึกะ ฟุจิโอะ ในปี 1953 และชื่อ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ นั้นเริ่มใช้ในปี 1954 โดยแบ่งเป็น
FUJIKO-F. FUJIO หมายถึง อ.ฟุจิโมโตะ ฮิโรช ิ และ FUJIKO-FUJIO A หมายถึง อ.อาบิโกะ โมโตโอะ
ในปี 1970 ทั้งคู่ก็ร่วมกันสร้างงานประวัติศาสตร์ "โดราเอมอน" ขึ้นมา ยุครุ่งเรืองก็ดำเนินเรื่อยมา
ในปี 1988 ทั้งคู่ก็ยุติการใช้ชื่อ ฟุจิโกะ ฟุจิโอะ และ อ.ฟุจิโมโตะ ก็ยุติบทบาทการเป็นนักเขียนการ์ตูนนับแต่ นั้นมา
อ.ฟุจิโมโตะ ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 23 กันยายน 1996 ขณะอายุ 62 ปี
อาจารย์ฟุจิโกะ เอฟ ฟุจิโอะ ผู้ให้กำเนิดโดราเอมอน

อาจารย์ฟุจิโกะมีชื่อจริงว่า ฟูจิโมโตะ ฮิโรชิ เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1933 (นับตามรูแบบของญี่ปุ่น จะเรียกว่า ปีโชวะที่ 8) ที่อำเภอทาคาโอกะ จังหวัดโทะยามะ....
อาจารย์ฟุจิโกะ จบจากโรงเรียนศิลปะการช่างทาคาโอกะ.... เข้าสู่วงการการ์ตูนโดยได้แรงบันดาลใจมาจากอาจารย์เท็ตซึกะ โอซามุ ผู้เขียนผลงานเอาไว้มากมายอย่างเช่น เจ้าหนูปรมาณู
อาจารย์เข้าสู่วงการพร้อมกับเพื่อนของอาจารย์ที่ชื่อว่า อาบิโกะ โมโตโอะ เพื่อนที่เจอกันมาตั้งแต่โรงเรียนประถม เทย์ซึกะ... ผลงานชิ้นแรกเริ่มของอาจารย์ทั้งสองท่าน
คือเรื่อง นางฟ้าทามะจัง ลงตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ไมนชิโชกักคุเซ ในปีโชวะที่ 26 (1951).... หลังจากนั้นก็เข้าโตเกียว และได้เป็นนักวาดการ์ตูนเต็มตัวในปีโชวะที่ 29 (1954)
ทั้งสองใช้นามปากการ่วมกันว่า ฟูจิโอะ ฟูจิโกะ.... ในช่วงนี้ท่านทั้งสองได้สร้างผลงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ผีน้อยคิวทาโร่, ปาร์แมน, เอสเปอร์สาวน้อยพลังจิต และแน่นอนโดราเอมอน
ในปีโชวะที่ 62 (1987) อาจารย์อาบิโกะได้ขอแยกตัวออกมา โดยใช้ชื่อว่า ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ เอ.... หลังจากนั้นอาจารย์ก็ใช้ชื่อว่า ฟูจิโกะ เอฟ ฟูจิโอะ และได้สร้างสรรค์ผลงาน
ออกมาอยู่ตลอด... ท่านจากโลกใบนี้เมื่อปีเฮเซที่ 8 (1996) ในวันที่ 23 กันยายน ด้วยโรคทางตับ... ผลงานเรื่องสุดท้ายของท่านคือ โนบิตะกับเมืองของเล่น
ที่เป็นผลงานชิ้นที่ 18 ของท่าน (ท่านไม่สามารถสร้างสรรค์จนแล้วเสร็จ และจากโลกนี้ไปด้วยอายุเพียง 62 ปี)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น